กลับมาอีกครั้งการทดสอบที่ผมรอคอยกับทริปขับประหยัด ที่ได้ทั้งประสบการณ์และได้พิสูจน์ความจริงของรถคันนี้ ว่ามันเป็นไปตามสเปคที่มาจากโรงงานหรือไม่ ครั้งนี้ทางมาสด้าเชิญมาพิสูจน์ความประหยัดน้ำมันของ MAZDA2 SKYACTIV-G โดยในทริปเดินทางครั้งนี้ได้เลือกเส้นทางขึ้นทางเหนือสุดของประเทศไทย ซึ่งน้อยรายที่จะเลือกเส้นทางที่เป็นขาขึ้น เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะใช้น้ำมันมากกว่าขาลง แต่ในเมื่อจุดหมายครั้งนี้คือ อ.แม่สายเหนือสุดแดนสยามแบบนี้ ซึ่งเริ่มต้นจาก กรุงเทพมหานครเมืองฟ้าอมร
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เริ่มที่ศุนย์บริการมาสด้า เวิร์นส์ สาขาถนนวิภาวดี หลังจากที่ลงทะเบียนเตรียมตัวต่างๆ แล้วก็เข้ามาฟังอธิบายถึง เส้นทาง กฎ กติกาต่างๆ และจับฉลากเลือกตัวรถ
สำหรับในครั้งนี้ผมได้เปลี่ยนคู่หูใหม่จากเดิมเป็นคือพี่กบ รชฎ มาเป็นคุณรติ ปานทอง จากGT-R MAXX ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งจำนวนรถในการแข่งขันทดสอบครั้งนี้แบ่งเป็น 2 รุ่น คือรุ่นซีดาน 4 ประตูและรุ่นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ในส่วนของทีมผมเราจับฉลากได้รถเบอร์ 1 ซึ่งเป็นกลุ่มของแฮทช์แบ็ค (รถ1คันต่อ 2 คน) โดยในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากสื่อมวลชนรุ่นใหญ่ 4 ท่านมาร่วมเป็นสักขีพยานในการแข่งขันทดสอบด้วย ส่วนผู้สื่อข่าวที่ทำการร่วมแข่งขันครั้งนี้ก็ทั้งหมด 38 ชีวิตด้วยกัน
แล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินทางกันแล้ว โดยวันนี้ถือเป็นวันแรก จุดหมายของเราในวันนี้จะไปหยุดพักผ่อนหลับนอนกันที่ จ.ลำปาง โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ – นครสวรรค์ – กำแพงเพชร – ลำปาง โดยแบ่งจุดเช็คลงเวลาทั้งหมด 4 จุด และจบสุดท้ายของวันแรกคือที่โรงแรมที่พักเลย หลายคนอ่านแล้วสงสัยว่าการแข่งขันทดสอบแบบนี้ทำกันยังไง อธิบายคร่าวๆ ให้ฟังได้ว่า จะมีจุดลงทะเบียนให้เราได้ขับไปลงเวลาตามที่กำหนด สมมุติเช่น ระยะที่ 1 ให้เวลา 1.30 ชม. กับระยะทาง 100 กิโลเมตร ผู้ขับและผู้นำทางต้องคำนวณเวลาให้เราสามารถไปถึงจุดหมายตามที่กรรมการกำหนดให้ไว้ ซึ่งจะต้องคำนวณให้ดี ระยะทาง ความเร็วที่ใช้ และการจราจรในที่นั้นๆ ถ้าคำนวณผิดพลาดไปช้ากว่าก็จะต้องถูกปรับเพิ่มเวลาหรือเพิ่มน้ำมัน (ตอนสุดท้ายเติมน้ำมันกลับคืนถัง) หรือถ้าขับเร็วเกินก็อาจจะทำให้ทีมเราใช้น้ำมันมากกว่าทีมอื่นๆ ซึ่งมีการตัดสินแบบเด็ดขาดและแม่นยำด้วยคณะกรรมการ
ระยะทางในจุดแรกของการเดินทางนั้นจากศูนย์มาสด้า ถนนวิภาวดี ไปเช็คเวลาที่ TC1 ปั๊มน้ำมันเชลล์ อินทร์บุรี เป็นระยะทาง 149.4 กม. ตรงจุดนี้ก็เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องคำนวณเวลาออกมาและหาความเร็วของตัวรถว่าเราควรจะใช้อยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งช่วงขาออกนั้นรถติดค่อนข้างมากอาจจะต้องเร่งสปีดกันหน่อย เพราะอาจจะไปไม่ทันจุดเช็คเวลาก็เป็นได้
จากนั้นก็มาต่อกันในช่วงของ TC1 – TC2 จากปั๊มเชลล์ไปแวะพักรับประทานอาหารกันที่ร้านไก่ย่างนิภาภรณ์รวมระยะทาง 128.5 กม. จากระยะทางที่ผ่านมาผมได้ปรับเทคนิคการขับขี่เล็กน้อย เพราะว่าเครื่องยนต์ 1.3 ลิตรเบนซิน ตัวนี้ระบบเกียร์ออโต้ค่อนข้างที่จะใช้รอบสูงและไวพอสมควร ดังนั้นการควบคุมคันเร่งให้นิ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำและทำได้ยากที่สุด ความเร็วที่ใช้ในช่วงนี้น่าจะอยู่ประมาณที่ 75 กม./ชม.
ต่อมาเป็นการเดินทางจาก TC2 – TC3 ร้านอาหารไปยังปั๊ม ปตท. อ.วังเจ้า รวมระยะทาง 113.9 กม. และในช่วงบ่ายนี้ล่ะตัวปัญหาเลยเพราะอากาศร้อนพอควรถึงแม้ว่าแอร์จะถูกเปิดไว้กลางๆ แล้วแต่มันก็ไม่พอกับความร้อนเหมือนกัน ซึ่งแผงควบคุมแอร์นี้เราจะไม่สามารถขยับมันได้เนื่องจากกรรมการได้ปิดผนึกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเดินทางในวันนี้แรกนี้เราเริ่มมาใกล้จุดหมายมากขึ้นแต่ก็ต้องปรับเทคนิคการขับขี่อยู่ตลอดเวลาเพราะอย่างที่บอกตอนแรกเส้นทางนี้เป็นแบบขึ้นเขาทางสูงชัน ก็ต้องคำนวณระยะทางและแรงเฉื่อยของตัวรถให้ดีเพื่อให้ตัวรถใช้รอบเครื่องยนต์น้อยที่สุดและไปถึงพื้นที่สูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งระยะ TC3-TC4 นั้นก็จากปั๊ม – ปั๊มน้ำมัน อ.เถิน รวมระยะ 109.4 กม. และปิดท้ายจาก TC4 – MTC2 ระยะทาง 87.8 กม. คือจุดหมายที่นอนของเราคืนนี้ ซึ่งรวมระยะทางทั้งหมดของวันแรกนั้นเป็นทั้งหมด 588.8 กม. ตรงนี้ผมก็ลองดูระดับน้ำมันที่เหลือในถังแล้ว ต่ำกว่าครึ่งถังอยู่พอสมควร เชื่อว่าน้ำมันที่เหลือน่าจะพาทีมงานเราไปถึง อ.แม่สาย อย่างแน่นอน ทุกคัน
เช้าวันที่สอง เรามีภารกิจเช็คสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมแข่งขันและเริ่มเดินทางกันต่อด้วยเวลา 08.00 น. เพื่อมุ่งหน้าไปจุดเช็คเวลาแรกที่ จ.พะเยา ด้วยระยะทาง 136 .0 กม.ตรงนี้ล่ะถือว่าสนุกสุดสำหรับผมนะ เพราะได้ลองช่วงล่างกันอย่างเต็มที่ทั้งทางขึ้นเชาและลงเขา ซึ่งทางลงเขาบางช่วงนั้น เราไม่สามารถเบรกหรือชะลอรถได้เลย เพราะจะทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างมาก ทำให้ได้ลองช่วงล่างของมาสด้า2 คันนี้แบบเต็มที่ ซึ่งผลที่ออกมานั้นพอใจมากทีเดียวเพราะเป็นรถเล็กที่ช่วงล่างเกาะโค้งมากๆ ในช่วงลงเขาจะเห็นได้ชัดเจน อาการรถไหลหลุดจากไลน์ตอนเข้าโค้งแทบไม่มี รถควบคุมได้ง่าย พวงมาลัยคุมเลี้ยวในโค้งได้ดี ถึงแม้บางครั้งจะเป็นอาการที่เกิดจากขนาดของยางเดิมๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ พ้นจากช่วงขึ้น-ลงเขามาแล้วเราก็เดินทางจากพะเยาไปยังเชียงรายต่อด้วยระยะ 103.5 กม. เพื่อแวะทานอาหาร และปิดท้ายด้วยระยะสั้นก่อนเข้าปั๊มไปเติมน้ำมันด้วยระยะ 46.8 กม.
และแล้วพวกเราทุกคันก็มาถึงปั๊มน้ำมันที่ บ้านถ้ำ อ. แม่สาย เพื่อพิสูจน์ความประหยัดในครั้งนี้ โดยรถทุกคันจะต้องนำมาเติมน้ำมันกลับลงไปในถังเพื่อดูว่าตั้งแต่ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ นั้นใช้น้ำมันไปทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งคันของผมนั้น พอมาถึงปั๊มแล้วดูจากเกจ์วัดน้ำมันและระยะที่ยังขับต่อไปได้ ยังอยู่ที่ร้อยกว่ากิโลเมตร และเราทำการเติมน้ำมันกลับลงไปจำนวนทั้งหมด 29.60 ลิตร เป็นเงิน 912.9 บาท ( น้ำมันลิตรละ 30.84 น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 ) ซึ่งก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอยู่ไม่น้อย และพอจะคำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองได้ 29.58 กม./ลิตร เพราะสเปคจากโรงงานบอกไว้ที่ 23.3 กม/ลิตร
นับว่ามีความประหยัดมากทีเดียว เพราะตลอดเส้นทางที่ขับมานั้น เจอทั้งฝน ทั้งแดด ทางลาดชัน ขึ้นเขา-ลงเขา และที่สำคัญเราขับแบบความเร็วปกติไม่ได้ช้ามากมาย บางช่วงจังหวะมีขับถึง 130 กม./ชม. ด้วยซ้ำ แต่ความเร็วที่ใช้โดยรวมทั้งหมดดูจากหน้าจอในรถแล้วอยู่ที่ประมาณ 80 กม./ชม. ก็ถือว่าเป็นความเร็วในการเดินทางปกติ แต่จริงๆ แล้วในการเดินทางจริงเวลาไปต่างจังหวัดก็น่าจะใช้ความเร็วกว่านี้อยู่พอควร แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการทดสอบแข่งประหยัดน้ำมัน ตามกฎกติกา ก็คงจะได้ผลที่ออกมาประมาณนี้
อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่ามาสด้าสองเบนซิน (SKYACTIV-G) ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมากพอสมควรอีกรุ่นหนึ่ง ถ้าใครที่ใช้รถรุ่นนี้อยู่ก็สามารถลองทดสอบแบบทีมงานได้นะครับ แต่ผลที่ออกมาจะเป็นแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและฝีเท้าของผู้ขับขี่เช่นกันครับ
#########################################################
premsak@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…