ปัจจุบัน สตีด มีจำหน่ายในรุ่น วี240 V240 เครื่องยนต์เบนซิน และ วี200 V200 เครื่องยนต์ดีเซล โดยเป็นรุ่นปรับโฉมก่อนส่งมาจำหน่ายในออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ สตีด ในซีรี่ส์ วี V คว้าคะแนนจาก เอ็นแคป ANCAP ได้เพียง 2- และ 3- ก่อนทำการปรับโฉม
เอกสารเผยแพร่จากค่ายเกรท วอลล์ คุยไว้ว่า “อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยถือเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับรถกระบะ เกรท วอลล์ เริ่มต้นจากแชสซีส์ที่แข็งแกร่ง ทนทาน และโครงสร้างห้องโดยสารที่ผลิตจากวัสดุเทคโนโลยีชั้นสูง”
แต่ เอ็นแคป ไม่เห็นด้วย โดยบอกว่าจากผลทดสอบการชนด้วยข้อบังคับของปี 2559 ได้คะแนนเพียง แย่มาก “poor” และนับเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ ก่อนที่จะคว้าคะแนนเพียง 2 คะแนนเท่านั้น
“เป็นผลการทดสอบที่น่าผิดหวัง ทั้งสำหรับผู้บริโภค และยี่ห้อรถ” ซีอีโอ เอ็นแคป เจมส์ กู๊ดวิน James Goodwin กล่าว “แม้ว่า สตีด จะมีถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมการทรงตัวอีเล็คทรอนิค ระบบที่ไม่เคยติดตั้งมาก่อน แต่มีเพียงโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงที่ให้เพิ่มความปลอดภัยได้เพียงเล็กน้อย”
ส่วนพื้นที่วางเท้าฉีกขาดขณะทดสอบการชน และโครงสร้างด้านล่างก็แยกออกจากกัน แป้นเหยียบก็หลุดออกจากที่ และ เอ็นแคป ยังบอกว่าชุดพวงมาลัยด้านล่าง ทำให้หัวเข่าผู้ขับขี่มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการบาดเจ็บจากแผงหน้าปัด ที่ถูกกระแทกและหล่นลงมา การปกป้องในส่วนนี้ได้รับคะแนนในอันดับที่สองรองจากท้าย ‘marginal’
เกรท วอลล์ ออสเตรเลีย ตอบสนองต่อการได้รับ 2 คะแนนครั้งนี้ว่า “น่าเสียใจที่ผลการทดสอบการชนโดย เอ็นแคป เป็นเช่นนี้” พร้อมทั้งระบุว่า ได้ส่งข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดที่ได้รับจากการทดสอบการชน ไปยังวิศวกรของบริษัท และตั้งทีมขึ้นมาสำรวจว่าควรจะต้องพัฒนารถอย่างไร เพื่อปรับปรุงคุณภาพการปกป้องผู้โดยสาร จากการทดสอบการชนของ เอ็นแคป ในอนาคต
ผู้ดูแลยี่ห้อ เกรท วอลล์ ออสเตรเลีย แอนดรูว์ เอลลิส Andrew Ellis กล่าวว่า “ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงเป็นอันดับแรก และรถกระบะ สตีด ก็เพิ่มอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ถุงลมนิรภัย 6 ใบ และ ระบบป้องกันการทรงตัวอีเล็คทรอนิค เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อให้รถกระบะของเรา ทั้งรุ่น วี240 และ วี200 มีความปลอดภัยมากที่สุด”
อีซูซุส่งเครื่อ…